🙏 ยินดีต้อนรับ เข้าสู่เว็บไซต์บุหรี่ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุด เรามีแอดมินพร้อมให้บริการตลอด 24 ช.ม.
หน้าแรก - ทำความรู้จัก PG และ VG ที่นักสูบพอตทุกคนควรรู้  !

ทำความรู้จัก PG และ VG ที่นักสูบพอตทุกคนควรรู้  !

ทำความรู้จัก PG และ VG ที่นักสูบพอตทุกคนควรรู้  !

PG และ VG ตัวช่วย ที่ดีที่สุดในการเลือกน้ำยาพอตสำหรับคุณ

Propylene glycol ตัวย่อ PG และ Vegetable glycerin ตัวย่อ VG
เป็นส่วนผสมหลักสองอย่างในน้ำยาพอต แต่ยังพบได้ในสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆอีกมากมาย เช่น โพรพิลีนไกลคอลในสารดูดความชื้น (ดูดซับน้ำและกับเก็บความชื้น) ไม่มีสีและไม่มีกลิ่น มีรสหวานเล็กน้อยและเนื้อสัมผัสที่คล้ายกับน้ำเชื่อม Vegetable Glycerin เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่ได้มาจากแหล่งธรรมชาติ เช่น น้ำมันและพืช แต่มักถูกสังเคราะห์ขึ้นมีความมันมากกว่าPG VGไม่มีกลิ่นถึงแม้จะมีรสหวานเล็กน้อยเช่นกันก็ตาม

PG คืออะไร และ VG คืออะไร ทำไมนักสูบพอตต้องทราบ?

Vegetable glycerin (VG) หรือที่เรียกว่ากรีเซอรอล ไม่ได้มาจากผักตามชื่อของมัน แต่สามารถได้มาจากแหล่งน้ำมันจากพืช อย่างไรก็ตามบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการผลิตปิโตรเคมีมักผลิตสารสังเคราะห์นี้ขึ้นบ่อยที่สุด กลีเซอรอลไม่เป็นพิษและมีการนำไปใช้งานในวงกว้างและหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่ด้านอาหาร เครื่องสำอางและยา นั่นเป็นเพราะมีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์หลายประการรวมทั้งคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านไวรัส และต้านการอักเสบใช้เป็นตัวทำละลายเป็นสารให้ความหวานและสารกันบูดในอุตสาหกรรมอาหาร

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ผู้ผลิตน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ในยุคแรก ๆ จึงตัดสินใจใช้ Glycerine เป็นส่วนผสมน้ำยาเนื่องจากความสามารถในการกักเก็บความชื้นและมีจุดเดือดต่ำ และยังไม่เป็นพิษดังนั้นจึงปลอดภัยที่จะบริโภคไม่ว่าจะโดยการกิน หรือการทาลงบนผิวหนังใบหน้าและเส้นผม อย่างไรก็ตามมีการทุกเถียงกันว่าการใช้ Glycerine ที่ให้ความร้อน เช่นใช้กับบุหรี่ไฟฟ้าที่มีการระเหย จะเปลี่ยนองค์ประกอบทางเคมีที่ทำให้เป็นพิษมากกว่าหรือไม่ (เช่น formaldehyde เป็นต้น)

Propylene Glycol (PG) เป็นของเหลวข้นไม่มีสีซึ่งมีคุณสมบัติและการใช้งานที่หลากหลาย ใช้ใน หลายหลายผลิตภัณฑ์และหลายอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น น้ำเชื่อมแก้ไอ เจลใส่ผมและสารกันบูดในอาหารหลายชนิด คุณสมบัติหลักของ PG ได้แก่ ความสามารถในการกักเก็บน้ำและความชื้นคุณสมบัติในการยึดเกาะ(เก็บสารอื่นไว้ด้วยกัน) คุณสมบัติในการเป็นตัวทำละลาย(สามารถละลายสารอื่นๆได้) องค์การอาหารและยายอมรับว่า PG เป็น GRAS (รู้จักโดยทั่วไปว่าปลอดภัย) แต่การกำหนดนี้ใช้กับการบริโภค PG ผ่านการกลืนกินหรือการใช้เฉพาะที่เท่านั้น แต่ผลกระทบต่อสุขภาพและร่างกาย จากการสูดดมนั้นไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด

เหตุใดจึงใช้ PG และ VG ในน้ำยาพอต ?

น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามี PG และ VG เป็นส่วนผสมหลักเนื่องจาก พวกมันสามารถเกาะติดและเก็บสารอื่นๆ(สารปรุงแต่งกลิ่นรส-CBD) มีจุดเดือดต่ำและ เข้าถึงได้ง่าย ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปว่าปลอดภัยสารทั้งสองชนิดนี้ยังสามารถละลายน้ำและผสมอื่นของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า อย่างไรก็ตามเนื่องจากคุณสมบัติเฉพาะที่มีไอระเหยจำนวนมากพบว่าความเข้มข้นที่สูงขึ้นของ PG หรือ VG ส่งผลให้เกิดผลต่างๆ ตัวอย่างเช่น น้ำยาที่มี PG อัตราสูงกว่าจะสร้าง “การแทงคอ”(throat hit) ได้มากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ VG

นอกจากนี้ PG ยังดูดซับสารปรุงแต่งต่างๆได้ดี จึงเป็นแนวทางที่ดีในการเข้าถึงกลิ่นรสชาติที่ชัดเจนขึ้นหากค่าPG สูงขึ้น ในทางกลับกัน VG ให้ผลที่นุ่มนวลกว่ามากซึ่งไม่ก่อให้เกิดอาการเจ็บคออย่างรุนแรง ในขนาดที่ยังสามารดึงเอารสชาติที่เป็นส่วนสำคัญของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าออกมาได้อย่างเหมาะสม

PG และ VG เป็นสารทดแทนที่เหมาะสมสำหรับนำ้ยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันในระยะแรกๆ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาระบบทางเดินหายใจในผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในยุคแรกจำนวนมาก

VG และ PG ในน้ำยาพอตปลอดภัยหรือไม่?

คำถามที่ว่าทั้ง PG และ VG สามารถสูดดมได้อย่างปลอดภัยหรือไม่นั้นยังคงถูกถกเถียงกันอยู่ ผลการศึกษาหลายชิ้นได้เสนอแนะว่า เมื่อให้ความร้อนร่วมกันของสารทั้งสองชนิดแล้ว สามารถเปลี่ยนองค์ประกอบทางเคมีของพวกมันให้กลายเป็นสิ่งที่เป็นพิษ เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์หรืออะซีตัลดีไฮด์ได้ แม้ว่าองค์การอาหารและยาจะอนุมัติสารทั้งสองชนิดเพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ เช่น อาหาร ยารักษาโรค และเครื่องสำอาง แต่ยังไม่มีการศึกษาผลกระทบเมื่อสูดดม ส่วนผสมอื่นๆ ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าในยุคแรกๆ ได้แก่ Diacetyl ซึ่งผู้ผลิตน้ำยาหลายรายหยุดเติมเพราะมีความเป็นพิษเมื่อสูดดม Diacetyl เป็นสารประกอบอีกชนิดหนึ่งที่พบได้ทั่วไปในสินค้าอุปโภคบริโภคหลายชนิด ถึงกระนั้นแม้ว่าจะปลอดภัยเมื่อกลืนกินเมื่อถูกความร้อนและสูดดมไอระเหย Diacetyl สามารถนำไปสู่โรคปอดที่รักษาไม่หายที่เรียกว่า Bronchiolitis obliterans

ผลข้างเคียงของ VG กับ PG ในน้ำยาพอตที่นักสูบเจอ

บางคนบอกว่า PG ระคายเคืองคอและในบางคนพบอาการแพ้ อาจต้องไปสังเกต VG หากคุณพบผื่นหรือมีปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์ เนื่องจากผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดของ PG คืออาการเจ็บคอ ปากแห้ง และรู้สึกกระหายน้ำ ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันถึงหนึ่งสัปดาห์ที่ร่างกายจะปรับความคุ้นเคยกับ PG

น้ำยาที่มีระดับVG สูงจะทำให้คอยล์อุดตันเร็วขึ้น เครื่องรุ่นเก่าที่ยังใช้ขดลวดขนาดเล็กเช่น clearomizers มีแนวโน้มที่จะเกิดการอุดตันของVG ผลข้างเคียงที่คนทั่วไปพบคือ ปากแห้ง กระหายน้ำมากขึ้น และเจ็บคอ วิธีช่วยคือดื่มน้ำในปริมาณมากหรือหยุดการสูบลงสักครู่

◦เปรียบเทียบ PG และ VG *****ทำรูปประกอบ***** เต็ม 5ดาว
◦ความหนืด   ***   / *****
◦ความหวาน  *  / ****
◦เสี่ยงการแพ้ ** /*
◦การแทงคอ *****/*
◦ความเข้มข้นของรสชาติ ****/**
◦ความหนาแน่นของควัน **/*****
◦Gunk buildup (ไม่เข้าใจความหมาย) การสะสมขยะ ***/****

การเลือกค่าน้ำยาพอตที่เหมาะสม

ไม่ใช่แค่เรื่องของการเลือกน้ำยาที่มีสัดส่วน PG/VG ที่เหมาะสำหรับคุณ ตัวอุปกรณ์เองก็มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจ หากเลือกค่าน้ำยาไม่ถูกตามความต้องการ ประสบการณ์การซูบของคุณก็จะไม่เหมือนเดิม เนื่องจากการระคายเคืองคอนั่นเอง

อัตราส่วน PG/VG และประเภทTank:

⁃Clearomizer ที่ใช้กันทั่วไปสำหรับสูบ เช่น Mini Nautilus และ Kanger Protank ความยาวของขดลวดทั้งสองนี้อยู่ระหว่าง 1.2 ถึง 2.5 ohmและ vape ไม่ควรเกิน 15W ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาที่ที VG สูงในTankเหล่านี้ เพราะขดลวดไม่สามารถรับมือกับของเหลวที่มีคราบสกปรกได้อย่างเหมาะสม ซึ่งอาจทำให้สำลีไหม้ได้ อัตราส่วน 50/50 VG ต่อ PG เหมาะสำหรับTankประเภทนี้

⁃Sub-ohm Tanks แทงค์ประเภทนี้ เช่น Aspire Atlantis และ Kanger Subtank เป็น Tankที่เหมาะกับ mods vape  เหมาะสำหรับน้ำยาที่ VGสูง ทำให้เกิดควันหนาแน่น ให้รสชาติที่ดีกว่าและvapeไม่ดูดน้ำยาเร็วเกินไป

⁃RDA/Drippers หากเลือกใช้ Dripper อัตราส่วนPG/VGจะใช้ได้หลากหลายยืดหยุ่นขึ้น ซึ่งกำหนดโดยความแข็งแรงของคอยล์ที่เลือกใช้

ต้องใช้ sub-ohm coils หากต้องการใช้ส่วนผสมVG ที่สูงกว่าในทางกลับกันต้องใช้ high-ohm coils เพื่อใช้น้ำยาที่มีPGสูงกว่า แม้ว่าการซึมซับสำลีจะไม่ดีเท่า การหยดมักจะดีที่สุดที่ส่วนผสม PG 30% และ VG 70% อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนขึ้นอยู่กับความพอใจคุณเองเมื่อได้ทดลองสูบ

◦VG และ PG ส่งผลต่อรสอย่างไร?

 

พอต,pg,vg

 

กลิ่นรสและนิโคตินส่วนใหญ่มีฐานจาก PG หากต้องการน้ำยามีVGที่สูงเพื่อให้สูบได้ง่ายขึ้น  ข้อพึงสังเกตคือถ้าน้ำยามีเปอร์เซ็นต์ของนิโคตินและรสที่สูงกว่า ระดับของ VGจะลดลงมากยิ่งขึ้นไปอีก คุณอาจได้รสชาติที่ชัดและแทงคอกว่า หาก PG สูง วิธีการเลือกอัตราส่วน PG/VG ที่ดีที่สุด ในท้องตลาดมีน้ำยาที่ให้อัตราส่วนPGและVGที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าบางชนิดอาจมีอัตราส่วนเฉพาะเพียงอย่างเดียว โดยทั่วไป PG มีไว้สำหรับผู้ใช้ที่ชื่นชอควันในปริมาณที่มากขึ้น

โดยอัตราส่วนที่แตกต่างกันมีตั้งแต่:

•High PG (80/20)
•70/30 – PG/VG
•50/50 – PG/VG
•70/30 – VG/PG
•High VG – (80/20)

นักสูบ ที่ชอบการสูบที่แทงคอรุนแรงกว่ามักจะเลือกอัตราส่วน VG ที่สูงกว่า PGที่สูง แต่การผสมผสานที่เหมาะสมของทั้งสองจำเป็นต่อการรักษารสชาติในน้ำยา นักสูบแต่ละคนจะกำหนดอัตราส่วน PG/VG ตามความชอบของตนเองซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ผลิตทำน้ำยาออกมาหลากหลายแบบอัตราส่วนเพื่อไว้เป็นทางเลือก หลายคนเลือกอัตราส่วน VG หรือ PG สูง เพราะแพ้อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้นควรตรวจสอบก่อนว่าแพ้ PG หรือ  VG หรือไม่

◦คำถามที่พบบ่อย

⁃70/30 PG ต่อ VG ดีไหม?
น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 70/30 PG ต่อ VG ดีสำหรับผู้ที่เรียกอัตราส่วนนี้ น้ำยาประเภทนี้ มักใช้โดยผู้สูบที่ต้องการควันมากๆ แทงคอแรง มีหลากหลายรสชาติ ค่า70/30 อย่างดีต่ออุปกรณ์ที่มีโอห์มหรือกำลังไฟสูง เนื่องจากน้ำยาสามารถให้ความร้อนได้ง่ายกว่า และส่งผลให้เกิดควันมากขึ้น อัตราส่วนของน้ำยานี้ไม่ควรใช้กับความเข้มข้นของนิโคตินสูง อย่างไรก็ตามเนื่องจากไอระเหยจำนวนมากขึ้นจะทำให้ปริมาณนิโคตินเพิ่มขึ้น และอาจส่งผลต่อผู้ใช้บางคนได้

⁃แบบไหนดีต่อสุขภาพ PG หรือ VG?

PG และ VG ไม่ดีต่อสุขภาพและไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเมื่อใช้ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า แต่ก็ ไม่เป็นพิษและถือว่าปลอดภัยสำหรับการบริโภคในสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ เช่น ยาแก้ไอยารักษาโรคและเครื่องสำอาง แต่การที่ตัวใดตัวหนึ่งมีคุณสมบัติทางสุขภาพดีกว่าตัวอื่นหรือไม่นั้นยังเป็นเรื่องที่น่าสงสัย Glycerine มีคุณสมบัติในการรักษาเมื่อใช้เป็นยารักษาบาดแผล แผลไฟไหม้ แต่ Propylene glycol ใช้กับอย่างอื่น ๆ

⁃Glycerine บริสุทธิ์ และ Vegetable Glycerin ต่างกันอย่างไร?

ไม่มีความแตกต่างระหว่างGlycerine บริสุทธิ์ และ Vegetable Glycerin เนื่องจากทั้งคู่เป็นสารชนิดเดียวกันความแตกต่างเพียงอย่างเดียวที่เป็นไปได้ระหว่างสิ่งเหล่านี้อาจเป็นที่มาของพวกมัน เกิดจากน้ำมันพืชธรรมชาติและ ไขมันที่สร้างขึ้นจากการสังเคราะห์ ในทางเคมีทั้งคู่หมือนกัน

⁃มีวิธีการทำน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าโดยไม่ต้องใช้ PG และ VG หรือไม่?

จริงๆแล้วมีหลายวิธีในการทำน้ำยา Vape Juice แบบ DIY โดยไม่ต้องใช้ VG หรือ PG แต่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะสร้าง E-Juice โดยไม่มีอย่างน้อย1ใน2 อย่างนี้ ผู้ใช้สามารถใช้ PG หรือ VG เท่านั้นผสมกับน้ำกลั่น สารปรุงแต่งรสที่เลือก และสารอื่นๆ (นิโคติน, CBD, THC) แต่ผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปตามสารดูดความชื้นที่ใช้ หากผู้ใช้เลือกเฉพาะ VG รสชาติจะหวานกว่ามาก แต่ไอระเหยอาจรุนแรงเกินไปและระคายเคืองหากเลือกเฉพาะ PG

⁃Propylene glycol สามารถทำให้เกิดมะเร็งได้หรือไม่?

Propylene glycol ถูกนำมาใช้เป็นเวลาหลายปีในสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆและคงไม่รวมอยู่ในผลิตภัณฑ์เหล่านี้หากเป็นสารก่อมะเร็ง จากที่กล่าวมายังไม่ทราบถึงผลกระทบที่ PG มีเตาอบอวัยวะภายในเมื่อถูกความร้อนและสูดดม PG ไม่เคยถูกศึกษาในรูปแบบนี้ และยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้ได้คำตอบของคำถามดังกล่าว

⁃บทสรุป

PG และ VG เป็นส่วนผสมสำคัญในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากมีคุณสมบัติมากมายสามารถผสมผสานกับน้ำได้ดีสามารถดูดซับสารอื่นได้โดยไม่ละลายและยังชูรสชาติอีกด้วย การเลือกอัตราส่วน PG/VG ที่ดีที่สุดเป็นการตัดสินใจตามความชอบและเหมาะสมของผู้ใช้รายบุคคล ซึ่งจะส่งผลให้ได้รับประสบการณ์การสูบที่แตกต่างกันออกไป น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีค่า PG สูง จะให้ขวัญที่ดีกว่าและแทงคอรุนแรงกว่า แต่ผู้ใช้ที่ต้องการกลิ่นและฟีลสูบนุ่มนวลกว่า ควรเลือกน้ำยาที่มี VGสูง

สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนคิดว่า 50/50 PG ต่อ VG  คือค่าที่ดีที่สุด หากคุณกำลังมองหาความสมดุล โดยสังเกตค่าNIC เป็น 0 หากต้องการลดเลิกบุหรี่มวนอย่างจริงจัง แต่ยังอยากได้ฟีลสูบอยู่

 

แหล่งอ้างอิง:
ที่มา: http://vapingdaily.com
ผู้เขียน: James Bickford

ส่งไวมาก ฟรีค่าส่งสินค้า

เมื่อมียอดชำระเกิน 1,500 บาท

ระบบชำระเงินปลอดภัย

รองรับ True Wallet และ ธนาคาร

สินค้าเป็นของแท้ 100%

รับประกันสินค้าแท้แน่นอน
หน้าแรก บัญชีของฉัน
0
ชำระสินค้า
Line